อย่างที่เราทราบกันดี เครื่องช่วยฟัง เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความละเอียดอ่อน ซึ่งน้ำก็ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ และรวมถึงเครื่องช่วยฟังด้วย เพราะน้ำอาจทำให้วงจรภายในเสียหายหรือทำให้เครื่องหยุดทำงานได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นน้ำจากเหงื่อ เปียกฝน ตกน้ำ หรือลืมไว้ในกระเป๋าเสื้อแล้วซักไปพร้อมกับเสื้อผ้า ถึงแม้เครื่องช่วยฟังรุ่นใหม่ ๆ ที่มีระบบกันน้ำ แต่หากโดนน้ำในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจส่งผลเสียได้ แต่ทุกคนไม่ต้องตกใจ วันนี้ hearLIFE มีวิธีแก้ไข และป้องกันมานะนำ
เมื่อเครื่องช่วยฟังเปียกน้ำ ทำอย่างไร ?
- ปิดเครื่อง และถอดแบตเตอรี่ออกทันที
เมื่อเครื่องช่วยฟังเปียกน้ำ ควรรีบปิดเครื่อง ถอดแบตเตอรี่ออก และเช็ดให้แห้ง อย่าพยายามลองเปิดเครื่องในระหว่างที่เปียกน้ำเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายกับวงจรได้ - เช็ดให้แห้งด้วยผ้าหรือกระดาษทิชชู่
ใช้ผ้านุ่ม ๆ หรือกระดาษทิชชู่ซับน้ำออกจากตัวเครื่องช่วยฟังให้ได้มากที่สุด ห้ามใช้ลมร้อนเป่าตรง ๆ เช่น ไดร์เป่าผม เพราะอาจทำให้วงจรภายในได้รับความเสียหายจากความร้อน - ใช้เครื่องอบไล่ความชื้น
หากใครที่มีเครื่องอบไล่ความชื้นสำหรับเครื่องช่วยฟัง หลังจากที่เช็ดทำความสะอาดเสร็จแล้ว ให้เปิดช่องใส่แบตเตอรี่ของเครื่องไว้ และนำเครื่องช่วยฟังเข้าเครื่องอบไล่ความชื้น โดยระยะเวลาการทำงานของเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 8 ชั่วโมง หรือทิ้งไว้ข้ามคืน หลังจากเสร็จกระบวนการให้ลองนำแบตเตอรี่มาใส่ หลังจากนั้นลองเปิดเครื่อง เพื่อตรวจดูว่าเครื่องช่วยฟังสามารถทำงานได้ปกติหรือไม่ - ใช้สารดูดความชื้น
หากใครที่ไม่มีเครื่องอบไล่ความชื้น สามารถใช้ก้อนดูดความชื้นแทนได้ โดยนำเครื่องช่วยฟังใส่ไว้ในกล่องที่มีสารดูดความชื้น พร้อมเปิดช่องแบตเตอรี่ของเครื่องทิ้งไว้ จากนั้นปิดฝากล่องให้สนิท และทิ้งไว้ข้ามคืน
สิ่งที่ไม่ควรทำ เมื่อเครื่องช่วยฟังเปียกน้ำ
ไม่ควรปล่อยแบตเตอรี่ทิ้งไว้ในเครื่องช่วยฟังเมื่อเครื่องเปียกน้ำ เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายกับวงจรภายในเครื่องได้
ห้ามใช้ไมโครเวฟ หรือเตาอบ บางคนอาจคิดว่าการใช้ไมโครเวฟ หรือเตาอบจะสามารถช่วยให้เครื่องช่วยฟังแห้งเร็วขั้น แต่นั่นเป็นวิธีที่ผิด และไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะความร้อนที่สูงจะทำให้ชิ้นส่วนภายในของเครื่องช่วยฟังเสียหายถาวร
วิธีป้องกันเครื่องช่วยฟังจากน้ำ และความชื้น
- หลีกเลี่ยงการใส่เครื่องช่วยฟังขณะอยู่ในพื้นที่ที่มีความชื้น
เช่น สระว่ายน้ำ หรือชายทะเล เป็นต้น หากต้องการทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเปียกน้ำเหล่านี้ ให้ถอดเครื่องช่วยฟังออกก่อน - การใช้สารดูดความชื้น หรือเครื่องอบไล่ความชื้นเป็นประจำ
การใช้สารดูดความชื้น และเครื่องอบไล่ความชื้นสำหรับเครื่องช่วยฟังเป็นประจำ จะช่วยลดความชื้นที่สะสมอยู่ของเครื่องช่วยฟัง และช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องได้ - เก็บเครื่องช่วยฟังไว้ในพื้นที่แห้ง
อย่าวางเครื่องช่วยฟังไว้ในพื้นที่อับชื้น เช่น ห้องน้ำ หรือบริเวณที่มีไอน้ำ
ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่อง
หากทำตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว เครื่องช่วยฟังยังไม่ทำงาน หรือมีความผิดปกติอยู่ เช่น
- มีเสียงซ่า ๆ หรือเสียงเบากว่าปกติ
- เครื่องเปิดไม่ติด แม้จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
- เสียงที่ได้รับขาด ๆ หาย ๆ
ควรนำเครื่องช่วยฟังไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบทันที เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มที่อาจจะเกิดขึ้น และซ่อมแซมเครื่องได้อย่างเหมาะสม
เมื่อเครื่องช่วยฟังโดนน้ำ หรือเปียกน้ำ ทุกท่านอย่าพึ่งตกใจ ให้รีบปิดเครื่อง ถอดแบตเตอรี่ และรีบทำให้แห้งด้วยวิธีที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนโดนตรงกับตัวเครื่อง และใช้สารดูดความชื้น หรือเครื่องอบไล่ความชื้น เพื่อช่วยดูดน้ำออก สุดท้ายหากเครื่องยังไม่สามารถใช้งานไม่ได้ ให้รีบติดต่อผู้เชี่ยวชาญ และนำเครื่องไปตรวจสอบทันที
Line Official : @hearlifeth
Facebook: https://www.m.me/hearlifethai
หรือโทร 02-693-9411
และสามารถอ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ บทความ
image by Freepik