การได้ยิน ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของหู แต่มันคือเรื่องของ ‘ชีวิต’ การที่เราได้ยินเสียงมันคือหนึ่งในประสาทสัมผัสหลักที่ส่งผลต่อการสื่อสาร เช่น ความสัมพันธ์ การทำงาน และคุณภาพชีวิต
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ผู้คนกว่า 1.5 พันล้านคนทั่วโลกมีปัญหาด้านการได้ยิน และเกือบ 430 ล้านคนต้องการอุปกรณ์ช่วยฟังหรือการดูแลรักษาอย่างจริงจัง และหลาย ๆ คนที่มีปัญหาด้านการได้ยินนั้น ไม่ยอมรักษาหรือป้องกันเมื่อหูเริ่มมีปัญหา ดังนั้น บทความนี้ไม่ได้เขียนเพื่อผู้สูงอายุเท่านั้น แต่สำหรับทุกคนที่ยังอยากได้ยินเสียงของโลกใบนี้
จากงานวิจัยของ Johns Hopkins ระบุว่า ผู้ที่มีปัญหาการได้ยินมักมีความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นถึง 24% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ปล่อยปละละเลยไม่ยอมตรวจสุขภาพหู และรักษาอย่างทันท่วงที และนี้คือสัญญาณเตือนที่คุณไม่ควรเมินเฉย
5 สัญญาณเตือนเกี่ยวกับหูที่คุณไม่ควรเมินเฉย
1. เริ่มฟังเสียงในที่เสียงดังไม่รู้เรื่อง
เคยไหม เวลาอยู่ในร้านกาแฟ หรือสถานที่ที่มีคนแออัด แล้วจับใจความบทสนทนาไม่ได้เลย? หากคุณเริ่มฟังไม่รู้เรื่องเวลามีเสียงรบกวน นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าการได้ยินของคุณเริ่มลดลง
2. เปิดทีวีดังจนคนข้างบ้านสะดุ้ง!
มีสักครั้งไหมที่คุณเปิดเสียงทีวี หรือสมาร์ทโฟนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนคนใกล้ตัวทัก ซึ่งปัญหาอาจไม่ใช่เพราะเสียงทีวีเบาลง แต่เป็นเพราะหูของคุณเริ่มได้ยินไม่เท่าเดิม เพราะฉะนั้น ลองสังเกตตัวเองบ่อย ๆ ว่าคุณมีอาการแบบนี้หรือไม่
3. ได้ยินเสียงหึ่ง เสียงหวีด ทั้งที่ไม่มีใครเปิดอะไร
เสียง ‘หึ่ง ๆ’ ในหูที่ไม่มีต้นตอ เป็นลักษณะอาการของ Tinnitus ซึ่งมักมาคู่กับการสูญเสียการได้ยินแบบถาวร แม้ไม่ใช่โรคอันตราย แต่ก็ส่งผลต่อการนอนหลับ สมาธิ และสุขภาพจิต หากคุณได้ยินเสียงเหล่านี้บ่อย ๆ โดยเฉพาะในความเงียบ ควรพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อเช็คสุขภาพหูสักหน่อย
4. ชอบขอให้คู่สนทนาพูดซ้ำบ่อย ๆ
การขอให้ผู้อื่นผู้ซ้ำอีกรอบ ปัญหาอาจไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายพูดไม่ชัดเสมอไป แต่ในบางครั้ง เราอาจได้ยินแต่แยกคำไม่ออก และหากเกิดเหตุการณ์นี้บ่อยจนคนรอบข้างเริ่มรำคาญ ควรพิจารณาเข้ารับการตรวจการได้ยิน
5. เริ่มไม่อยากคุยกับใคร
เมื่อการได้ยินเสียงทำได้ยากขึ้น สมองก็ต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการประมวลผลเสียง เพื่อแปลความหมาย ส่งผลให้คุณเหนื่อยง่าย และเริ่มหลีกเลี่ยงการสนทนา เหมือนในหนังดราม่าที่ตัวเอกเริ่มปลีกตัวออกจากโลกภายนอก เพราะ ‘เสียง’ ที่เขาเคยได้ยิน กลับกลายเป็น ‘ความเงียบ’
ทำไมการตรวจการได้ยินจึงสำคัญ?
เพราะการได้ยินที่ลดลงนั้น ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการสื่อสาร แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตและสมองของเรา เช่น ความเครียด ซึมเศร้า และความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม ดังนั้นการตรวจการได้ยินอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกัน และรักษาปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว
แล้วเด็ก ๆ ต้องตรวจไหม?
โดยเบื้องต้นเด็กที่เกิดใหม่ทุกคนได้รับการตรวจการได้ยินอยู่แล้ว แต่ในเด็กเล็กที่พึ่งมามีปัญหาการได้ยินภายหลังอาจไม่รู้ตัวว่าตนเองไม่ได้ยิน เด็กที่พูดช้ากว่าปกติ ไม่ตอบสนองต่อเสียง หรือมีปัญหาในการเรียนรู้ ควรได้รับการตรวจการได้ยินโดยเร็ว เพราะหากปล่อยไว้อาจกระทบพัฒนาการด้านภาษา และพัฒนาการตามช่วงวัยได้
ควรตรวจเมื่อไหร่? ตรวจที่ไหน?
โดยปกติแล้วเราควรตรวจการได้ยินอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง แต่หากคุณพบหนึ่งในห้าสัญญาณข้างต้น ควรพบแพทย์หูคอจมูกหรือนักแก้ไขการได้ยินทันที
ในภาพยนตร์เรื่อง ‘Sound of Metal’ ตัวละครหลักที่เป็นมือกลองได้สูญเสียการได้ยินอย่างกะทันหัน ส่งผลให้ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เขาสูญเสียตัวตน ความเชื่อมั่น และต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับ ‘ความเงียบ’ ที่ไม่เคยคุ้นชิน เฉกเช่นเดียวกับหลายคนในชีวิตจริงที่เมื่อการได้ยินหายไป โลกทั้งใบก็ดูเงียบเหงาขึ้นในทันที
สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่>> Sound of Metal
ผลกระทบ
เด็กที่มีปัญหาด้านการได้ยินมักแสดงออกทางพฤติกรรม เช่น สมาธิสั้น พูดคนเดียว หรือไม่เล่นกับเพื่อน ซึ่งผู้ปกครองอาจเข้าใจผิดว่าเป็นปัญหาด้านพฤติกรรม แต่ที่จริงแล้วอาจมาจากการไม่ได้ยินเสียงอย่างชัดเจน
ตรวจการได้ยินที่ไหน?
สถานที่ตรวจการได้ยินไม่จำเป็นต้องเป็นโรงพยาบาลใหญ่เท่านั้น ปัจจุบันมีคลินิกเฉพาะทางด้านโสตประสาทมากขึ้น เช่น ศูนย์สุขภาพชุมชน หรือที่ hearLIFE Thailand เราก็มีบริการตรวจการได้ยินที่ครบครัน
สิ่งที่ควรถามเมื่อเข้ารับการตรวจการได้ยิน
- ตรวจโดยนักแก้ไขการได้ยิน (audiologist) หรือแพทย์เฉพาะทางหรือไม่
- ใช้อุปกรณ์มาตรฐานหรือไม่ เช่น ห้องเก็บเสียง, เครื่องวัดเสียงบริสุทธิ์ (audiometer)
- มีผลการตรวจเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่
ในหนังบางเรื่อง ‘เสียง’ คือศัตรู แต่ในชีวิตจริงนั้น ‘เสียง’ คือสิ่งที่เชื่อมโยงเรากับคนรอบข้าง การละเลยปัญหาการได้ยินไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่มันส่งผลถึงความสัมพันธ์ต่าง ๆ อาทิเช่น ครอบครัว การทำงาน และยังส่งผลต่อสภาพจิตใจของคุณเอง
การตรวจการได้ยินนั้นไม่เจ็บ และใช้เวลาไม่นาน เสียเวลาตรวจเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงอาจช่วยเปลี่ยนการได้ยินของคุณไปตลอดชีวิต
สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับโรคหูเพิ่มเติมได้ที่ บทความ
Line Official : @hearlifeth
Facebook: https://www.m.me/hearlifethai
แหล่งอ้างอิง